วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

นักเรียนดีที่ต้องการ

“นักเรียนดีที่ต้องการ”
พร้อมซื่อสัตย์สุจริตรับผิดชอบ
พร้อมประกอบกิจวินัยใฝ่ศึกษา
พร้อมเกิดเป็นทำเป็นเน้นปัญญา
พร้อมเชื่อฟังครูบาอาจารย์
พร้อมหน้าที่คุณธรรมนำนิสัย
พร้อมยึดในแนวปราชญ์อย่างอาจหาญ
พร้อมฝึกค้นคว้าวิชาการ
พร้อมประสานศรัทธาค่านิยม
พร้อมทดทนอดกลั้นไม่หวั่นหวาด
พร้อมมารยาทกิริยาสง่าสม
พร้อมตั้งมั่นกตัญญูน่าชื่นชม
พร้อมใจบ่มผลบุญหนุนชีวี
พร้อมจงรักพักดีชาติ , ศาสน์ , กษัตริย์
พร้อมพิพัฒน์รัฐสมบูรณ์พูนสุขศรี
พร้อมสร้างสรรค์เสริมหลักสามัคคี
ทั้งหมดคือ “นักเรียนดีที่ต้องการ”

ครูกับศิษย์

ครูกับศิษย์
กับอาชีพของครูที่เห็น
ช่างลำเค็ญเหนื่อยหนักการรักษา
ให้เด็กสิ้นภัยพิษอวิชชา
เดินมุ่งหน้าฝ่าข้ามสู่ความดี
ตัวหลักสูตรแม่บทกำหนดว่า
เด็กต้องกล้าแสดงออกบอกศักดิ์ศรี
ครูแนะหาทางออกห้ามบอกชี้
เพื่อเด็กรู้หน้าที่ชีวิตตน
หนึ่ง คิดเป็นแนวทางอย่างถูกต้อง
ในข้อสอง ทำเป็นเห็นถูกผิด
สาม แก้ปัญหาได้จากภัยพิษ
เด็กได้คิดทำแก้อย่างแท้จริง
ทุกกลุ่มประสบการณ์งานชีวิต
ครูสร้างศิษย์มากมายทั้งชายและหญิง
ครูแนะศิษย์ทำไปไม่ประวิง
ทุกทุกสิ่งได้ผล...ถ้าสนใจ
สร้างฐานการศึกษาประชาชาติ
สนองราษฎร์ผู้ทุกข์เข็ญเป็นข้อใหญ่
โดยปลูกฝังคุณธรรมอธิปไตย
สร้างเด็กไทยเร่งรัดพัฒนา

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ปรัชญา

ปรัชญาโรงเรียน
ความรู้ดี ทำงานเด่น เน้นวินัย ใฝ่คุณธรรม นำวิชาชีพสู่สังคม
ความรู้ดี
หมายถึง การจัดการเรียนการสอนให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจ เชื่อมั่นในตนเองในการปฏิบัติงานต่าง ๆ
ทำงานเด่น
หมายถึง การจัดการเรียนการสอนให้นักศึกษามีความรู้ความชำนาญ มีความเชื่อมั่นในตนเอง ทำให้ทำงานได้ดี มีประสิทธิภาพในการประกอบอาชีพ
เน้นวินัย
หมายถึง โรงเรียนเน้นการรักษาระเบียบวินัยเพื่อมุ่งให้นักศึกษา มีวินัยในตนเองมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ใฝ่คุณธรรม
หมายถึง การจัดการเรียนการสอนในทุกสาขาวิชาด้วยความซื่อสัตย์ ความเอื้ออารี ความมีน้ำใจ ความสามัคคี เพื่อให้ดำรงตนในสังคมได้อย่างมีความสุข
นำวิชาชีพสู่สังคม
หมายถึง การจัดการเรียนการสอนได้นักศึกษามีทักษะในการเรียนรู้ มีความเข้าใจในสาขางาน มีความรอบคอบในการปฏิบัติงานเพื่อนำไปประกอบอาชีพในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
นตฺถิ ปัญญา สมาอาภา
แสงสว่าง เสมอด้วยปัญญาไม่มี

พันธกิจ

พันธกิจ
การพัฒนาโรงเรียนให้ก้าวหน้าเป็นแหล่งวิชาความรู้ มุ่งสู่การพัฒนานักศึกษาให้มีคุณธรรม โรงเรียนจึงได้วิเคราะห์และกำหนดพันธกิจเพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ดังนี้
1.พัฒนาครูให้มีจรรยาบรรณครบถ้วนเป็นแบบอย่างที่ควรเคารพ
2.พัฒนานักเรียน นักศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา โดยมุ่งผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
3.เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา มีความรู้ ทักษะ ความชำนาญ และประสบการณ์อันเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต
4.เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม และจรรยาบรรณในอาชีพมีระเบียบวินัย เชื่อมั่นในตนเอง มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ สังคม มีเจตคติที่ดีต่อสัมมาชีพ และมีความภาคภูมิใจในวิชาชีพที่เรียน
5.เพื่อพัฒนาให้นักเรียน นักศึกษามีคุณธรรม ด้านความซื่อสัตย์สุจริตความขยันหมั่นเพียร ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความรับผิดชอบในการทำงาน มนุษยสัมพันธ์ที่ดีและความสามารถการตัดสินใจในการแก้ปัญหา
6.เพื่อพัฒนาให้นักเรียน นักศึกษา ให้มีบุคลิกภาพที่ดี มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจตลอดจนให้รู้จักช่วยรักษา และส่งเสริมสาธารณสุขของชุมชน
7.เพื่อเป็นศูนย์ในการบริการทางวิชาการแก่หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปรวมทั้งการเผยแพร่ความรู้ต่าง ๆ ให้แก่ผู้สนใจ
8.เพื่อส่งเสริมการศึกษาด้านศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากรของประเทศ และท้องถิ่นให้เป็นไปตามแผนพัฒนาการศึกษาของรัฐ
9.เพื่อให้ความสะดวกแก่นักเรียน นักศึกษาในท้องถิ่น และพื้นที่บริการใกล้เคียง

คำขวัญ

นำทักษะวิชาชีพ

วิสัยทัศน์

วิสัยทัศน์
โรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน มุ่งมั่นที่จะให้การศึกษาเป็นกลไกในการพัฒนานักศึกษาให้เป็นบุคคลที่มีความรู้ดี มีสุขภาพดี ทั้งกายและใจ มีคุณธรรม จริยธรรม มีลักษณะนิสัยและทักษะความสามารถที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพในชุมชนและสังคมได้ในอนาคต

วัตถุประสงค์การจัดตั้งโรงเรียน

วัตถุประสงค์การจัดตั้งโรงเรียน
การจัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. ดำเนินการจัดบริหารโรงเรียนตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้เยาวชนที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้รับการศึกษาเพื่อไปประกอบสัมมาอาชีพและดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและมีความสุข
2.เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิตได้
3.เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาสู่ชุมชนในท้องถิ่น
4.เพื่อเพิ่มมาตรฐานการศึกษาให้แก่ประชาชนในชนบทให้สูงขึ้น
5.ให้การศึกษาเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์เพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองและอยู่รวมกับครอบครัว ชุมชน สังคม อย่างมีความสุข
6.ให้บริการเกี่ยวกับการเรียนการสอน หรืออุปกรณ์เกี่ยวกับการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียน ครู ผู้ปกครอง และบุคลากรของโรงเรียนอย่างเหมาะสม
7.ส่งเสริมการศึกษาวิจัยและการประเมินผลเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับ
8.ส่งเสริมความเป็นเอกภาพและความรับผิดชอบร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม
9.ให้การสนับสนุนนักศึกษาที่ยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์ใฝ่ใจศึกษาให้ได้โอกาสศึกษาเล่าเรียน
10.ส่งเสริมสวัสดิการครู นักศึกษา พนักงานของโรงเรียนเพื่อให้เกิดวินัยในตนเองและเกิดความสำนึกในการประกอบสัมมาอาชีพ
11.ให้บริการด้านวิชาการและบริการอื่น ๆ เพื่อสาธารณะประโยชน์หรือความร่วมมือในกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาสังคม
ประเภทและสังกัดโรงเรียน
โรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน เป็นโรงเรียนเอกชน ประเภทอาชีวศึกษา มาตร 15 (1)
แห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ. ศ. 2525 ซึ่งจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนและสังกัดสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
การจัดการศึกษาของโรงเรียน
โรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน ได้รับอนุญาตให้เปิดสอน 2 ระดับ ได้แก่
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช.)
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.)

หลักสูตรและวิชาที่สอน
โรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน เปิดทำการสอนในปีการศึกษา 2546 ในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2538 และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง พุทธศักราช 2540
ของกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในปีการศึกษา 2546 ดังนี้ คือ
1.ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชาพาณิชยกรรม มี 3 สาขา คือ
1.1สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 1 ห้อง จำนวนนักเรียน ไม่เกิน 45 คน
1.2สาขาการบัญชี 1 ห้อง จำนวนนักเรียนไม่เกิน 45 คน
1.3สาขาวิชาการขาย 1 ห้อง จำนวนนักเรียนไม่เกิน 45 คน
2.ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม มี 1 สาขา คือ
2.1สาขาช่างยนต์ 1 ห้อง จำนวนนักเรียนไม่เกิน 45 คน
เปิดสอนระดับ ปวส. ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย มีสาขา ดังนี้ คือ
1.ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชา บริหารธุรกิจ
1.1สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ 1 ห้อง นักศึกษา จำนวน 30 คน
1.2สาขาการบัญชี 1 ห้อง นักศึกษา จำนวน 30 คน
ชั้นเรียน เปิดสอนปกติ วันจันทร์ – ศุกร์ ภาคบ่าย วันจันทร์ – เสาร์

วันหยุด
ภาคปกติ ใน 1 สัปดาห์ หยุด 2 วัน คือ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ และหยุดตามวันที่ราชการกำหนด ส่วนภาคบ่าย หยุดเฉพาะตามวันหยุดที่ราชการกำหนด

หลักฐานการรับสมัคร
1.ใบ รบ. หรือ หลักฐานการรับรองการศึกษาจากสถาบันศึกษาเดิม จำนวน 2 แผ่น
2.รูปถ่ายเครื่องแบบนักเรียน/นักศึกษา หน้าตรงไม่สวมหมวก หรือใส่แว่นตาดำ ขนาด 1 นิ้ว
จำนวน 3 แผ่น
3.สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 2 แผ่น
4.สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 2 แผ่น

การจำหน่าย
1.เมื่อเรียนจบหลักสูตร
2.ลาออก
3.ตาย
4.ประพฤติผิดต่อกฎและข้อบังคับของสถานศึกษาอย่างร้ายแรง

การทดสอบและการประเมินผลการเรียน
1.มีการประเมินผลเป็นรายวิชา โดยคิดเป็นจำนวนหน่วยกิต หรือหน่วยการเรียน
2.มีการประเมินผลเป็นรายวิชา จากการวัดผลระหว่างการเรียนและเมื่อเรียนจบแต่ละรายวิชา
3.มีระเบียนแสดงผลการเรียนประจำตัวนักศึกษา
4.การประเมินผลการเรียนในแต่ละวิชา อาจประเมินผลโดยการทดสอบ หรือ การสังเกต หรือวิธีอื่นใด ทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ทั้งนี้จะครอบคลุมเนื้อหาและจุดมุ่งหมายของรายวิชานั้น ๆ
5.การประเมินผลการเรียนในแต่ละรายวิชา จะให้ผลการเรียน ดังนี้

4.หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม
3.5 หมายถึง ผลการเรียนดีมาก
3 หมายถึง ผลการเรียนดี
2.5 หมายถึง ผลการเรียนค่อนข้างดี
2 หมายถึง ผลการเรียนพอใช้
1.5 หมายถึง ผลการเรียนค่อนข้างพอใช้
1 หมายถึง ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ
0 หมายถึง ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์

6.นักเรียนผู้ใดทุจริตในการสอบ หรืองานที่มอบหมายให้ทำในรายวิชาใดก็ตาม ให้ถือว่าสอบตกสำหรับสอบ หรืองานที่มอบหมายในรายวิชานั้น ครั้งนั้น
7.รายวิชาใดที่ได้รับผลการเรียน 0 ถือว่า สอบตกรายวิชานั้น รายวิชาใด ที่ได้รับผลการเรียนตั้งแต่ 1 ขึ้นไป ถือว่า สอบได้ และให้นับจำนวนหน่วยกิต หรือหน่วยการเรียนที่ได้ เป็นหน่วยกิต หรือหน่วยกิตสะสมของรายวิชานั้น
8.ถ้านักเรียนผู้ใดสอบตกในรายวิชาใด เมื่อหัวหน้าสถานศึกษาเห็นควรอาจให้นักเรียนผู้นั้นสอบแก้ตัวใหม่ภายใน 10 วัน หลังจากประกาศผล
9.การหาระดับผลการเรียนเฉลี่ยจากรายวิชาทั้งหมดที่เรียนหรือบางวิชาเพื่อแจ้งผลการเรียน ในกรณีที่
นักเรียนนำผลการเรียนไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ในสถานศึกษาอื่น หรือเพื่อการศึกษาต่อ
10.นักเรียนต้องมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนที่กำหนดให้สำหรับรายวิชานั้น จึงมีสิทธิ์เข้ารับการประเมินผลการเรียนนั้น
11.รายวิชาใดที่แสดงระดับผลการเรียนตามข้อ 5 ไม่ได้ ให้ใช้ตัวอักษาต่อไปนี้
ข.ร. หมายถึง ขาดเรียนไม่มีสิทธิ์เข้าสอบปลายภาคเรียน เนื่องจากมีเวลาเรียนต่ำกว่า ร้อยละ 80 โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
ข.ป. หมายถึง ขาดการปฏิบัติงาน หรือปฏิบัติงานไม่ครบ โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควร
ข.ส. หมายถึง ขาดสอบปลายภาคเรียน โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วว่าไม่มีเหตุผลสมควร
ถ.ล. หมายถึง ถอนรายวิชาภายหลังกำหนด โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผล
สมควร
ถ.น. หมายถึง ถอนรายวิชาภายในกำหนด
ถ.พ. หมายถึง ถูกสั่งพักการเรียนในระหว่างที่มีการสอบปลายภาคเรียน
ท. หมายถึง ทุจริตในการสอบหรืองานที่มอบหมายให้ทำ
ม.ส. หมายถึง ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่สามารถเข้าสอบปลายภาคเรียน หรือไม่ส่งงานอันเป็น
ส่วนประกอบของการเรียนตามกำหนด ด้วยเหตุจำเป็นอันสุดวิสัย
ม.ท. หมายถึง ไม่สามารถเข้าสอบทดแทนการสอบปลายภาคเรียนของรายวิชาที่ไม่สมบูรณ์ภายในภาคเรียนถัดไป
ผ. หมายถึง ได้เข้าร่วมกิจกรรมตามกำหนด และผ่านการประเมินผล
ม.ก. หมายถึง การเรียนโดยไม่นับจำนวนหน่วยกิตมาร่วมเพื่อการจบหลักสูตและผ่านการประเมินผล
ม.ผ. หมายถึง ไม่ผ่านการประเมินผลทำกิจกรรม หรือไม่ผ่านการประเมินผลการเรียนรายวิชา
ที่ลงทะเบียนเพื่อเสริมความรู้ โดยไม่นับจำนวนหน่วยกิจมารวมเพื่อการจบหลักสูตร
การออกประกาศนียบัตร
ให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการค่าธรรมเนียมการสอนสถานศึกษา จะเก็บค่าธรรมเนียมการเรียนและค่าธรรมเนียมอื่น ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการกำหนด
การแต่งกาย
ให้นักเรียน นักศึกษา แต่งกายตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียนและ
นักศึกษา พ.ศ.2527 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ประกาศ ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2528
การแต่งกายของนักเรียน
1. นักเรียนชาย ระดับ ปวช.
1.1ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น
1.2ผูกเน็คไทสีแดงเลือดหมู
1.3กางเกงขายาวสีดำหรือกรมท่าผ้ามัน (ไม่ใช้กางเกงยีนส์)
1.4หัวเข็มขัดโลหะตราของโรงเรียนและสายเข็มขัดสีดำ
1.5รองเท้าหนังหรือผ้าใบสีดำ สวมถุงเท้าสีดำ

2. นักเรียนหญิงระดับ ปวช.
2.1ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น
2.2ผูกเน็คไทสีแดงเลือดหมู
2.3ติดกระดุมโลหะตราโรงเรียน
2.4กระโปรงพลีสจีบรอบสีดำตามแบบของโรงเรียน
2.5หัวเข็มขัดตราของโรงเรียนและสายเข็มขัดสีดำ
2.6รองเท้านักเรียนคัทชูสีดำ
หมายเหตุ นักเรียนประเภทสาขางานวิชาอุตสาหกรรม และนักเรียนประเภทสาขางานวิชาพาณิชย-กรรมใส่เสื้อฝึกงานสีแดงเลือดหมู
กำหนดการรับสมัคร
1. เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม - 31 พฤษภาคม ทุกปี
2. เปิดรับสมัครทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
วันเปิดเรียน
1.เปิดภาคเรียนที่ 1 วันที่ 16 พฤษภาคม ของทุกปี
2.เปิดภาคเรียนที่ 2 วันที่ 1 พฤศจิกายน ของทุกปี
ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน
1.ตราของโรงเรียน เครื่องหมาย/ตราของโรงเรียน คือ รูปนกและรูปหนังสือล้อมรอบด้วยฟันเฟือง มีความหมาย ดังนี้
รูปนก หมายถึง ความรู้ คุณธรรม และสันติ ซึ่งใช้เป็นหลักในการดำรงชีวิต และปฏิบัติงานร่วมกัน
รูปหนังสือ หมายถึง การสอน การให้ความรู้อบรมบ่มเพาะในสรรพวิทยาการสาขาต่าง ๆ
แก่นิสิตเพื่อพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศ
รูปฟันเฟือง หมายถึง ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ
2.อักษรย่อของโรงเรียน ได้แก่ “ท.พ.น.” สำหรับภาษาไทย และ N - TECH สำหรับ
ภาษาอังกฤษ โดยย่อมาจากชื่อโรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน

นโยบาย เป้าหมาย

นโยบาย วัตถุประสงค์ เป้าหมาย กลยุทธ์
และสภาพความสำเร็จของโรงเรียน
( SCHOOL PHILOSOPHY )
นโยบายของโรงเรียน ( School Policy Objectives and Goals )
โรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน ได้กำหนดนโยบายของโรงเรียนโดยยึดหลักแนวทางปรัชญา
ของโรงเรียน ดังนี้
1.จัดการเรียนการสอนในวิชาชีพสาขาที่ตลาดแรงงานต้องการ โดยเป็นสาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาการขาย สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ สาขาวิชายานยนต์
2.จัดการเรียนการสอนเป็นหลักคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม และจรรณยาบรรณในวิชาชีพ โดยยึดถือปฏิบัติอย่างจริงใจ
3.จัดการเรียนการสอนเน้นความมีวินัย ใฝ่รู้ และใฝ่เรียนให้เกิดเป็นนิสัยส่วนตัวนักเรียน นักศึกษา
4.จัดการเรียนการสอนโดยเน้นความมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตี ห่างไกลสิ่งเสพติด และอบายมุขทั้งหลาย
5.พัฒนาสถานศึกษาให้ภูมิทัศน์ที่ดีเอื้อต่อการเรียนการสอน
6.พัฒนาบุคลากรของโรงเรียนให้เข้าสู่มาตรฐานวิชาชีพ

วัตถุประสงค์ของโรงเรียน (School Objectives)

1.เพื่อจัดการเรียนการสอนให้เกิดการเรียนรู้ มีความสามารถ และมีทักษะเชิงปฏิบัติการ
2.เพื่อเสริมสร้างสามัญสำนึกพื้นฐานให้แก่นักเรียน นักศึกษาได้เป็นผู้มีค่านิยมที่ถูกต้องและเพียบพร้อมด้วยความเป็นคนมีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพ
3.เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในโรงเรียนให้ร่วมกันปฏิบัติงาอย่างเต็มกำลังความสามารถและมีความรับผิดชอบ
4.เพื่อพัฒนาระบบการบริหารของโรงเรียน ให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลและมีความเป็นประชาธิปไตย
5.เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา มีทักษะความสามารถที่แท้จริงในการนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้อย่างมีคุณภาพได้มาตรฐาน รวมทั้งมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

เป้าหมายสถานศึกษา
โรงเรียนมีความมุ่งหวัง ที่จะสร้างคน โดยเชื่อมั่นว่าการศึกษาจะสร้างคน คนจะสร้างชาติ โดยการถ่ายทอดคุณค่าต่าง ๆ ที่สร้างสม อบรมในตัวศิษย์ไปสู่สังคมโดยมีตัวศิษย์เป็นสื่อกลาง คุณค่าที่โรงเรียนหวังก็คือการที่นักศึกษาใฝ่เรียนใฝ่รู้ มีความอดทน พากเพียร มีความชำนาญในวิชาชีพที่นำไปใช้ในการดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างดี เป็นการช่วยสร้างสังคมที่ดี ตลอดชีวิตของแต่ละคน แต่ละรุ่นที่จบการศึกษา โดยสรุปเป็นสารสำคัญ ดังนี้
1. ให้นักเรียน นักศึกษา มีวินัย มีคุณธรรม จริยธรรม รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทย สร้างคุณค่าทางสังคมได้อย่างดี
2. ส่งเสริมการเรียนรู้ให้มีคุณภาพและศักยภาพ เพื่อให้นักศึกษานำไปใช้ในชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
3. ให้นักเรียน นักศึกษา มีความสามารถปฏิบัติการจนชำนาญในวิชาชีพเฉพาะทางและมีความรู้ด้านวิชาการเป็นอย่างดี
4. พัฒนาระบบการบริหารจัดการทุกฝ่าย เพื่อตอบสนองกระบวนการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งด้านวิชาการ การบริหารทุกฝ่ายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสู่เป้าหมาย
5. ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้การเรียนการสอนให้เกิดคุณภาพทั้งด้านการสอน การถ่ายทอดการเรียนและการผลิตสื่อได้อย่างเหมาะสม

ประวัติความเป็นมา

โรงเรียนเทคโนโลยีพณิชยการหนองหาน เดิมชื่อโรงเรียน เป็นโรงเรียนเอกชน
ประเภทอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ
ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2543 เหตุเกิดจากความต้องการของท้องถิ่น ซึ่งไม่มีโรงเรียนในระดับอาชีวศึกษา
ต้องเดินทางไกลในการไปศึกษาต่อโรงเรียนอาชีวศึกษาในตัวจังหวัดอุดรธานี
โรงเรียนได้รับการอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 24 เดือน เมษายน พ.ศ 2543
มีเนื้อที่ทั้งหมด 6 ไร่ มี นายสิทธิพงษ์ ศรีบัวบาล เป็นผู้รับใบอนุญาต
นายบุญจันทร์ เกษาทา เป็นผู้จัดการ และ เป็นครูใหญ่
เปิดสอนในระดับต่าง ๆ ดังนี้
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขางานเทคนิคยานยนต์
ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขางานการบัญชี และสาขางานคอมพิวเตอร์
หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)
ประเภทบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการบัญชี สาขาวิชาคอมพิวเตอร์
โรงเรียนเปิดทำการสอนมาแล้วเป็นเวลา 8 ปี

ปัจจุบัน เปลี่ยนผู้บริหาร / ผู้รับใบอนุญาตใหม่เป็น
นางทองพูน วิทยารัตน์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2551
และเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551
และเปลี่ยนผู้จัดการเป็น
นายธนกฤต วิทยารัตน์ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551